ซุ่ยเหลียน
เด็กสาวที่เทพธิดาบุปผาเสกขึ้นจากดอกซุ่ยเหลียนในสระทิพย์แห่งสวรรค์ จุดประสงค์ก็เพื่อล่อลวงจอมมารที่หนีไปจุติยังโลกมนุษย์
เกาอู่เยี่ย
จอมมารแห่งซีเปียน ผู้ครอบครองศิลาชั่วนิรันดร์
เพราะอาการบาดเจ็บจากการประลอง
ทำให้จำต้องหลบเร้นไปจุติยังโลกมนุษย์
ความรู้สึกราวกับถูกจ้องมอง ทำให้อันซุ่ยเหลียนตื่นขึ้น
นางลืมตาพร้อมกับมองเห็นเงาดำทาบทับอยู่ด้านบน ปากอิ่มอ้าขึ้นพร้อมกรีดร้อง
แต่สัมผัสที่ประทับลงมาในทันที ทำให้นางได้แต่ส่งเสียงอึกอัก
ริมฝีปากนุ่มถูกขบกัดเบาๆ พันธนาการแน่นหนา ทำให้ทั้งมือและเท้าไม่อาจขยับ
ร่างอรชรอวบอิ่มถูกร่างสูงทาบทับลงไปอย่างชิดเชื้อ
ยังผลให้ความตื่นตระหนกแล่นไปทั่วทั้งสรรพางค์กาย
สัมผัสบีบบังคับพร้อมกับความกล้าแกร่งของกล้ามเนื้อในแบบของบุรุษเพศ
ทำให้หญิงสาวหวาดหวั่น
นางดิ้นรนสุดแรงแต่กลับทำได้เพียงดิ้นขลุกขลักในอ้อมแขนทรงพลัง
เสียงหัวเราะดังขึ้น พร้อมกับกลิ่นกายอันคุ้นเคย
เป็นกลิ่นชาผสมกับกลิ่นเปลือกสนที่นางคำนึงถึงมาตลอดหนึ่งปี
อันซุ่ยเหลียนหยุดดิ้นรน นางเพ่งมองเงาดำที่ทาบทับเหนือร่าง
พยายามปรับสายตาเข้ากับความมืด และนั่นทำให้ร่างใหญ่มีโอกาสได้สำรวจนางมากขึ้น
จุมพิตรุกเร้าสำรวจลึกล้ำ ความโหยหานับตั้งแต่วันที่ต้องแยกจาก ทำให้คนทั้งสองที่ต่างก็ตระหนักถึงอีกฝ่ายตรงหน้า ยอมเปิดรับกันและกันอย่างเร่าร้อน
“พี่อู่เยี่ย” อันซุ่ยเหลียนครางเสียงแผ่ว เพราะมือใหญ่กำลังสอดเข้าไปในสาบเสื้อที่เปิดอ้าของตน
“ข้าคิดถึงเจ้า ซุ่ยเหลียนของข้า” เกาอู่เยี่ยกระซิบ เขากดจุมพิตหนักๆ ลงไปยังข้างแก้ม ไล้ปลายจมูกลงมาตามลำคอ กระทั้งประทับริมฝีปากลงไปยังเนินอกนุ่มนิ่ม โดยมีมือใหญ่คอยเปิดทางด้วยการแหวกสาบเสื้อออก
ซุ่ยเหลียน บุปผาในมือจอมมาร
แสดงความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น